ฝึกโยคะให้ใช้ 3 ใจ ใจแรก คือ "ความตั้งใจ" ทุกคนที่มานั่งอยู่บนเสื่อ ณ ขณะนี้ เพราะเรามีใจที่หนึ่งนี้ เราตั้งใจ เราถึงมา ใจที่สอง คือ "ความใส่ใจ" ความใส่ใจ หมายถึง ความสนใจด้วยความรัก นอกจากเราจะใส่ใจที่จะทำท่าให้ครบถ้วน สวยงามแล้ว ขอให้เราเพิ่มการใส่ใจในระหว่างทาง การฝึกโยคะคือการทำซ้ำๆ อาจจะมีบางจุดที่เราไม่เคยคิดถึง การวางเท้า ระยะเท้า การผ่อนไหล่ วันนี้เราจะลองมาใส่ใจในระหว่างทางให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มสีสันให้กับการฝึกของเรา ใจที่สาม คือ สิ่งที่นักเรียนทุกคนทำอยู่ตอนนี้ "การหายใจ" โยคะ คือ อาสนะประสานกับลมหายใจ ให้ความสำคัญกับท่าและลมหายใจเท่าๆ กัน...

คำว่า “โยคะ” หลายคนเข้าใจผิดว่า โยคะ คือกีฬาประเภทหนึ่ง แต่จริงๆแล้ว โยคะคือ ศาสตร์ๆหนึ่ง ซึ่งมีประวัติมายาวนานมากว่า 5000 ปี เพราะฉะนั้นเวลาเราจะไปเข้าคลาสเรียนที่ไหน เราจึงควรจะพูดว่า ไปฝึก หรือเรียนโยคะ ไม่ใช่ “เล่นโยคะ” เหมือนที่หลาย ๆ คน เข้าใจผิด และชอบพูดกัน การเล่นกีฬาอื่น ๆ และการฝึกโยคะ อาจจะได้ประโยชน์ที่เหมือนกัน คือร่างกายแข็งแรง แต่ที่แตกต่างกันออกไป คือโยคะจะไม่มีการแข่งขัน ไม่มีการเปรียบเทียบความสามรถเรากับใคร แต่สิ่งที่ผู้ฝึกต้องทำ คือการอยู่กับตัวเอง การฝึกลมหายใจ และการปรับสมาธิก่อนฝึก เพื่อเตรียมความพร้อมไปสู่ช่วงระหว่างฝึก เพราะการฝึกโยคะ คือการเคลื่อนไหวท่าทางในแต่ละท่า ให้สอดประสาน ไปกับลมหายใจที่เข้าลึก และออกยาว  นั้นหมายถึง การฝึกในแต่ละครั้ง เราจะต้องมีจิตใจที่สงบนิ่ง และมีสมาธิเป็นอย่างมาก เราอาจจะเคยสังเกตตัวเราเองว่า ทำไมวันนี้เราฝึกดีจัง แต่บางวัน ก้อฝึกไม่ได้เรื่องเลย นั้นอาจจะเป็นเพราะ ร่างกาย และจิตใจของเราในแต่ละวัน...

Being in Satit Yoga TTC#2 class is a unique and remarkable chapter of my life. It introduces so many different experiences more than I could ever expect. Well, first of all, the classmates are super awesome. Forget about those crazy psycho bastards in the toxic workplace. All the classmates are...

อย่าลืมหายใจ วันหนึ่งฉันตื่นขึ้นมาจากการหลับไหล วันนั้นเป็นวันที่ไม่ต้องออกไปทำงาน ไม่ต้องรีบร้อน ไม่ต้องแข่งขันกับเวลา ไม่ต้องพบปะผู้คน และฉันได้นั่งนิ่งๆพิงหัวเตียง มองออกไปข้างนอกหน้าต่างห้องอย่างสบายอารมณ์ ในห้องที่เงียบและสงบนั้น ไม่มีเสียงใด ใด นอกจากเสียงหัวใจที่กำลังเต้นอยู่ และเสียงลมหายใจที่กำลังเข้าและออกอย่างเป็นจังหวะสอดคล่องกันอย่างเป็นระบบ ฉันเริ่มหายใจเข้าลึก และหายใจออกยาว คลายกับกำลังนั่งสมาธิ เพียงแต่เปลี่ยนการกำหนดจิตเข้าออกพุทธ โท เป็น หายใจเข้า ออกซิเจน หายใจออกคาร์บอนไดออกไซด์ และลองกลั่นลมหายใจ...

#จากผู้ฝึกโยคะมาเป็นผู้นำฝึกโยคะ# เริ่มจากวันแรกของการฝึก และ เรียนรู้ทฤษฎีเกี่ยวกับศาสตร์ของโยคะ เรียนรู้เกี่ยวกับ Anatomy การใช้ศัพท์ภาษาอังกฤษกับร่างกายของคนเรา เรียนรู้การจัดระเบียบร่างกาย เรียนรู้เทคนิคที่ลึกขึ้นและเริ่มรู้วิธีและขั้นตอนในการสอน การร้อยเรียง sequence ให้ต่อเนื่องโดยไม่สะดุด เรียนรู้ถึงลมหายใจ ที่ต้องสัมพันธ์กับการเคลื่อนไหวร่างกาย และสามารถนำลมหายใจนั้นไปสู่ อาสนะ ที่ยากขึ้น รู้สึกถึงลมหายใจนั้นเป็นสิ่งมหัศจรรย์มากสามารถนำพาร่างกายของเรา ให้เกิดความเบาและสบายได้ ย้อนไปถึง การเรียนรู้ สามารถ นำ Anatomy มาใช้กับโยคะได้ดีเลยทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น การพับลำตัวลงหาหน้าขา(uttanasana)ถ้ามีความตึงที่ hamstring เราก็สามารถบอกให้เขางอเข่ายืดหลังตรงได้ แต่ถ้าเรา มองไปที่กล้ามเนื้อ ลักษณะการหดตัวจะทำตรงข้ามกัน นั่นหมายถึง hamstring ตึง ก็มองไปที่กล้ามเนื้อหน้าขา (quadriceps femoris) ให้เขาทำงานมากขึ้น hamstring ก็จะคลายตัวลง เป็นต้น ดังนั้นการที่เราได้มาศึกษาเรียนรู้การเป็นผู้นำฝึกโยคะครั้งนี้ เราได้ประโยชน์อย่างถ่องแท้กับตัวเราเองและผู้ที่มาฝึกกับเราด้วย (#)นมัสเต(#) ที่มา สุดจิตต์ มีแสง ภาพประกอบ สุดจิตต์ มีแสง...

ในสังคมยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยวัตถุนิยม ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ข้อมูลข่าวสาร ความสะดวกสบายต่างๆจนทำให้ความสงบสุขทางใจ กาย และจิต นั้นหายไปโดยที่เราไม่รู้ตัว เราต้องเผชิญทั้งความเครียดและวิตกกังวลจากความก้าวหน้าทางข้อมูลข่าวสาร มลพิษ และโรคระบาดทั้งที่เกิดมาแล้วในอดีต และที่เกิดขึ้นมาใหม่ โดยที่เราไม่สามารถตั้งตัวได้ ซึ่งมันอยู่รอบๆตัวเรา จนทำให้เราเกิดความทุกข์เกิดอาการซึมเศร้า ในบางครั้ง โดยที่เราไม่รู้ตัวเลยในสถานการณ์ปัจจุบันคนที่จะได้เปรียบที่สุด คือคนที่แสวงหาเวลาเพื่อดูแลสุขภาพของตนเอง ซึ่งหนึ่งในการดูแลสุขภาพนั้นคือการฝึกสมาธิ และการฝึกโยคะเพราะการฝึกโยคะจะ ทำให้เกิดสมาธิ มีสติอยู่กับตัวตลอดเวลา ทำให้กายสบายจิตสงบไม่เกิดอารมณ์ฟุ้งซ่าน สามารถควบคุมอารมณ์ได้ตลอดเวลา แนวโน้มที่จะทำให้เราเกิดความเครียด และ โรคซึมเศร้า ได้น้อยมาก โชคดีที่โยคะนำพาเราไปสู่ความสงบสุข นมัสเต ที่มา สุดจิตต์ มีแสง ภาพประกอบ สุดจิตต์ มีแสง...

ฝึกโยคะช่วงเวลาไหนดี        เคยสงสัยไหมว่าฝึกโยคะช่วงเวลาไหนดี ลองมาดูการฝึกโยคะแต่ละช่วงส่งผลให้กับทางร่างกายและจิตใจของเราอย่างไร และอาสนะใดเหมาะกับช่วงเวลาไหน   ในช่วงเวลาเช้าตรู่  จิตใจสงบและสดใสเต็มไปด้วยความตื่นรู้ แต่ร่างกายค่อนข้างแข็งตึง เฉื่อยช้า ดังนั้นจึงเป็นช่วงเวลาทีดีในการฝึกท่าอาสนะที่สงบ เช่น ฝึกลมหายใจ ท่านั่ง ท่าพับลำตัว และท่ายืดสะโพก ลดการฝึกที่ต้องใช้พลังมากจนเกินไป   ในช่วงเวลาสาย (ก่อนเที่ยง)  ร่ายกายและจิตใจมีความพร้อมที่จะฝึกท่าอาสนะที่มีความแข็งแรง มีพลังและความแข็งแกร่งของร่างกายรวมถึงจิตใจ ดังนั้นจึงเหมาะสมกับการฝึกท่าอาสนะเต็มรูปแบบ สามารถใช้พลังงานได้เต็มที่ ท่าที่มีความท้าทาย เช่น ท่ายืนขาเดียว หรือท่ากลับศรีษะ   ในช่วงบ่าย (ก่อนเวลายามเย็น)  ร่ายกายมีความต้องการความยืดหยุ่นและความอ่อนนุ่มในการฝึก  แต่ยังคงสามารถฝึกอาสนะที่มีความแข็งแรง คงทนได้  อย่างไรก็ตามในช่วงเวลานี้ให้ลดการฝึกท่าอาสนะที่ต้องกลับศรีษะ  ท่าอาสนะที่มีความท้าทายสูง  ให้ฝึกท่าอาสนะที่มีความสงบเพื่อช่วยให้ร่างกายและจิตใจได้ฟื้นฟูสภาพตนเองก่อนที่จะหมดวัน เช่น ท่านั่ง ท่ายืน ท่าบิดลำตัว ท่าบริหารหน้าท้อง   ในช่วงเวลาเย็น  เป็นช่วงเวลาแห่งการฝึกเน้นไปที่ความผ่อนคลายและการมีสมาธิของร่างกายและจิตใจ เช่น ฝึกลมหายใจ ท่านั่ง ท่าเหยียดยืด ไม่เหมาะสมกับการฝึกที่เข้มข้น  หรืออาสนะที่ต้องใช้กำลังมากนัก  เพราะจะไปกระตุ้นการทำงานของระบบภายในร่างกายเช่น อวัยวะภายใน ต่อมไร้ท่อทั้งหลาย และไม่ควรฝึกหลัง 3 ทุ่ม  เพราะหลังจากนั้นไปแล้วอาจจะทำให้นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย   การฝึกในขณะที่ท้องว่าง  จะช่วยลดข้อจำกัดในการเข้าอาสนะต่างๆ เช่น...

กฎข้อแรกของการฝึกโยคะ คือการฝึกให้สนุกและมีความสุขอยู่ในทุกอาสนะ   โยคะเป็นอีกหนึ่งการออกกำลังกายที่มีความหลากหลายในรูปแบบของการเคลื่อนไหว เฉกเช่นเดียวกับการออกกำลังกายอื่น ดังนั้น ผู้ที่ฝึกโยคะก็ควรต้องถามตัวเองก่อนว่า จุดประสงค์ในการฝึกโยคะของตนเองนั้น ฝึกไปเพื่ออะไร เพื่อความแข็งแรง เพื่อยืดเหยียดกล้ามเนื้อ เพื่อลดน้ำหนัก เพื่อสุขภาพ เพื่อชะลอวัย เพื่อใช้เวลาอยู่กับตัวเอง เพื่อฝึกสมาธิ หรือถูกทุกข้อที่กล่าวมาทั้งหมด...

     การออมเงิน จงอย่ารอ ความพร้อม เพราะมันไม่มีวันนั้น มันมีแต่ทำทันทีในวันนี้ " ถ้าฉันหมดหนี้ก้อนนี้ ฉันจะตั้งใจเก็บเงิน" " ถ้าลูกฉันเรียนจบ ฉันจะตั้งใจเก็บเงิน " " ถ้าฉันมีกิจการของตนเอง หรือได้เลื่อนตำแหน่ง ฉันจะตั้งใจเก็บเงิน "      ฯลฯ เหตุผลที่มีอยู่จริง เราเชื่อคุณ แต่เมื่อถึงเวลานั้น คุณก็จะมีเหตุผลอื่นมาผัดมันไปอีกเสมอ      ในด้านสุขภาพก็เช่นกัน ออมได้เลยค่ะ ไม่ต้องรอ " ถ้าฉันมีเงินมากพอ ไม่มีภาระอะไร ฉันจะแบ่งเวลาไปออกกำลังกาย " " ถ้าลูกฉันโตกว่านี้  ฉันคงจะมีเวลาไปออกกำลังกาย " " ถ้าฉันเคลียร์งานได้ดีกว่านี้ ไม่ต้องกลับดึก ฉันจะได้ออกกำลังกายสักที "      ฯลฯ เหตุผลที่มีอยู่จริง เราเชื่อคุณ แต่เมื่อถึงเวลานั้น คุณก็จะมีเหตุผลอื่นมาผัดมันไปอีกเสมอ และร่างกายก็ไม่รอคุณด้วย      และเชื่อไหมว่า ช่วงเวลาที่คุณผัดวันประกันพรุ่งอยู่นี้ ส่วนใหญ่คืออายุประมาณ 30-50 ปี...