“โยคะจะสถิตกับเราไปตลอดทุกลมหายใจ”
จุดเริ่มต้นของการฝึกโยคะ คือการขับรถผ่านสถานที่ฝึกแห่งหนึ่งขณะส่งลูกเรียนพิเศษ ถ้าได้ไปลองระหว่างรอลูกคงจะดี โยคะเรียนอะไรกันบ้าง เมื่อสนใจจึงเข้าไปสมัคร เริ่มเรียนครั้งแรกรู้สึกชอบเลย เพราะมีการขยับร่างกาย กล้ามเนื้อหลายส่วน ซึ่งในชีวิตประจำวันแทบไม่ได้ใช้เลยในบางจุด การฝึกนั้นมีทั้งท่าง่ายและยาก ระหว่างฝึกทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง มีความเหนื่อย ความตึง ความตื่นเต้น สงสัย และกังวลปะปนกันไป แต่โดยรวมคือชอบ รู้สึกว่าโยคะน่าสนใจ มีอะไรน่าค้นหา ที่สำคัญครูให้นำจิตมาอยู่กับร่างกายตลอดเวลา มีการทำสมาธิและฝึกลมหายใจ รู้สึกสงบอย่างบอกไม่ถูก คิดว่ามาถูกทางแล้ว จึงหาเวลาและโอกาสมาฝึกอีก แต่หลังจากฝึกฝนได้ไม่นาน มีสถานการณ์โควิดเกิดขึ้น ทำให้ต้องหยุด ขณะนั้นยังไม่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองจึงพยายามหาสถานที่ฝึกอีกหลายแห่ง มีการเข้า workshop แบบออนไลน์ หาครูสอนแบบ private แต่การฝึกเป็นแบบกระท่อนกระแท่นไม่ต่อเนื่อง บางช่วงหยุดจนเริ่มมีอาการหายใจไม่สะดวก ร่างกายส่งสัญญาณเตือนจึงกลับมาฝึกด้วยตนเองอีกครั้ง และเริ่มมีความคิดที่จะเรียนในศาสตร์โยคะให้ลึกมากขึ้น เพื่อจะได้เข้าใจ และฝึกฝนได้ถูกต้องด้วยตนเอง เพราะโยคะให้ประโยชน์หลายอย่างต่อร่างกายและจิตใจ เช่น ทำให้อาการภูมิแพ้และหอบหืดหายไปหลังจากฝึกอย่างสม่ำเสมอ อาการปวดไมเกรนเดือนละ 1-2 ครั้ง เหลือเพียงปีละ 1 – 2 ครั้ง ปัจจุบันยังไม่กลับมาปวดอีกเลย การทำกิจวัตรประจำวัน งานบ้าน งานสวน เดิน shopping หรือการทำงานที่ใช้เสียง รู้สึกมีเรี่ยวแรงและพลังอย่างมาก มีความเหนื่อยน้อยลง (หรืออาจเป็นเพราะหายใจได้ถูกต้องมากขึ้น) ร่างกายมีความยืดหยุ่นและแข็งแรงขึ้น (ดูจากการทำกิจวัตรประจำวันและผลตรวจสุขภาพประจำปี) รูปร่างสมส่วนขึ้น (คำบอกเล่าจากคนรอบข้าง) ที่สำคัญคือมีสมาธิในแต่ละวัน อารมณ์ดี มีความสุขสงบและปล่อยวางได้ดีหากมีสิ่งใดมากระทบ เมื่อโยคะดีแบบนี้จึงตัดสินใจแน่วแน่ที่จะเรียนเป็นครูโยคะ เพื่อดูแลตนเอง
ส่งต่อไปยังครอบครัว เพื่อนฝูงและคนรอบข้าง เริ่มวางแผนเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับอาสนะ แต่สถานการณ์ยังไม่เอื้ออำนวยจึงฝึกแบบออนไลน์สัปดาห์ละ 3 – 5 วันต่อเนื่องมาเป็นเวลา 10 เดือน จนคิดว่า(ใจ)พร้อมแล้ว การเดินทางสู่ครูโยคะ จึงเริ่มขึ้น ณ สถิตโยคะ
ทำไมจึงเป็นสถิตโยคะ ตอบตามจริงอันดับแรกคือ สถานที่เรียนสะดวก อยู่ใกล้บ้านมากที่สุด แต่ก่อนจะเป็นสถิตโยคะ ได้ติดตามเพจของครูสถิต โดยเฉพาะคลิปรีวิวของรุ่นพี่ ชมซ้ำไปมาหลายรอบ รวมทั้งสอบถามไปยังพี่รุ่น 4 (ครูแนท) ทำให้ทราบรายละเอียดต่าง ๆ มากขึ้นจนมีความมั่นใจว่าที่นี่ น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดของเรา เหตุผลสำคัญกว่าใกล้บ้านคือครูมีชื่อเสียงมายาวนานเกือบ 30 ปีเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางและนักเรียนของครูทุกรุ่นมีคุณภาพมาก
เมื่อก้าวเข้ามาเรียน บรรยากาศการเรียนดีมาก ครูทั้ง 3 ท่าน ถ่ายทอดอย่างสนุกสนานเป็นกันเองได้รับความรู้มากมาย ไม่มีวินาทีไหนเลยที่ไม่สนุก ครูพูดเสมอว่าทำให้ได้หรือรับไปสัก 60% – 70% ก็พอแล้วแต่ครูเองกลับให้เต็มที่เกินร้อย ครูสถิตหรือ uncle ของพวกเรา พูดน้อยแต่ short and sharp สอนตรงประเด็น สั้น กระชับ เข้าใจง่าย ไม่กดดันลูกศิษย์ ครูใจดี มีเมตตามาก ครูต่าย สวยและเท่ห์ สอนสนุกทุกหัวข้อฟังเพลิน ได้ความรู้ 2 – 3 ชั่วโมงต่อเนื่องแบบไม่รู้ตัว ครูนำประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์มาบอกเล่าได้อย่างสนุกสนานและประทับใจ ครูต้า ครูหนุ่มหล่อที่มีพลังงานดีทั้งวัน พลังเหลือล้นมาก รอยยิ้มและกำลังใจของครูเป็นแรงผลักดันให้ทุกคนมุ่งมั่น ครูตั้งใจและเติมเต็มในทุกส่วนอย่างเต็มที่ รู้สึกขอบพระคุณครูทั้ง 3 ท่านเป็นอย่างมาก ดีใจที่ได้มีโอกาสมาเป็นศิษย์ที่เป็นเหมือนคนในครอบครัว ในส่วนของพี่และน้อง ๆ เพื่อนร่วมรุ่น ทุกคนน่ารักมาก ยิ้มแย้มแจ่มใจ ช่วยเหลือมีน้ำใจ แบ่งปันมิตรภาพที่มาจากหัวใจเดียวกัน (Heart of Yoga)ขอบคุณจริง ๆ อีกแรงสนับสนุนคือครอบครัว ขอบใจลูกที่เสียสละเวลาให้แม่ได้มีโอกาสเดินบนเส้นทางนี้ขอบคุณสามีที่สนับสนุนทุกกิจกรรม เป็นพลขับ ส่ง – รอ – รับ ทุกเสาร์ – อาทิตย์ ตลอด 12 สัปดาห์ที่สำคัญขอบคุณตัวเองที่มีความเพียร ครูบอกว่าเราทุกคนมีหน้าที่การงานมากมาย แต่ยังนำพาตัวเองมาเป็นนักเรียนอีกครั้งนั่นคือ เรามีความเพียร
ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นใคร อายุเท่าไหร่ ประกอบอาชีพใด ฝึกโยคะมามากน้อยแค่ไหน เป็น Beginner,Intermediate หรือ Advance หากคุณมีใจแห่งโยคะแล้ว ที่นี่คือคำตอบ คุณสามารถนำความรู้ไปฝึกฝนพัฒนา ต่อยอด และถ่ายทอดได้อย่างปลอดภัยแน่นอน
“ทุกอาชีพมีวันเกษียณ แต่…โยคะจะสถิตกับเราไปตลอดทุกลมหายใจ” ไม่มีคำว่าช้าหรือเร็ว สำหรับการเดินบนเส้นทางแห่งโยคะนี้จงนำพากายใจ ฝึก ฝึก และฝึก ขอบคุณครูในศาสตร์โยคะทุกท่าน ขอพลังดีๆ จงสถิตอยู่บนโลกนี้ตลอดไป นมัสเต
by Mai